ฉีดโบท็อกมาทั้งทีก็อยากให้ออกฤทธิ์นาน ๆ อยู่ได้ยาว ๆ กันใช่ไหม? แต่คงมีหลายคนสงสัยว่า แล้วฉีดแล้วจะอยู่ได้นานแค่ไหน แล้ว Botox ฉีดบ่อยแค่ไหน? เพราะการฉีดโบท็อกนั้นไม่ใช่หัตถการที่ให้ผลลัพธ์ถาวร แต่เป็นการรักษาที่ต้องทำซ้ำเป็นระยะ ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ดังนั้น Dr.Bank Clinic จึงขอพาทุกท่านมาไขข้อสงสัยว่าควรฉีดโบท็อกบ่อยแค่ไหน และระยะเวลาที่โบท็อกจะออกฤทธิ์ได้นานเท่าไหร่
Botox อยู่ได้นานแค่ไหน
การฉีดโบท็อกเป็นวิธีการรักษาที่ให้ผลลัพธ์ชั่วคราว โดยทั่วไปแล้วโบท็อกจะอยู่ได้ประมาณ 3 – 8 เดือน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ยี่ห้อของโบท็อกซ์ที่ใช้ วิธีการใช้ชีวิตประจำวันของผู้รับการรักษา และตำแหน่งที่ฉีด โดยเฉลี่ยแล้ว การฉีดโบท็อกซ์ในตำแหน่งต่าง ๆ อยู่ได้นานต่างกันไป เช่น
- โบท็อกกราม ปีกจมูก และริ้วรอย อยู่ได้ 3 – 6 เดือน
- โบท็อกรูขุมขน อยู่ได้ 3 – 6 เดือน
- โบท็อกลิฟท์หน้า อยู่ได้ 3 – 5 เดือน
- โบท็อกลดเหงื่อและลดน่อง อยู่ได้ 4 – 6 เดือน
อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาที่โบท็อกจะอยู่ได้นั้นอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางคนอาจเห็นผลชัดและอยู่ได้นานกว่า 6 เดือน ในขณะที่บางคนอาจต้องฉีดซ้ำอยู่บ่อยครั้ง
Botox จะออกฤทธิ์ได้นาน ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง
Botox อยู่ได้นานแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ซึ่งแต่ละปัจจัยมีผลต่อประสิทธิภาพ และระยะเวลาการออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์ ดังนี้
ยี่ห้อของโบท็อก
ปัจจุบันมีโบท็อกหลายยี่ห้อในตลาด ซึ่งแต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติและประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน ยี่ห้อที่นิยมใช้ ได้แก่ โบท็อกจากอเมริกา อังกฤษ เกาหลี เยอรมัน เป็นต้น โดยแต่ละยี่ห้อก็มีส่วนผสมและปริมาณสารที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพและระยะเวลาการออกฤทธิ์ ดังนั้น Botox อยู่ได้นานแค่ไหน การเลือกยี่ห้อโบท็อกที่เหมาะสมจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ Botox ออกฤทธิ์ได้นาน
เลือกฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
การฉีดโบท็อกซ์โดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์สูงก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน การฉีด Botox โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนั้น แพทย์จะสามารถให้คำปรึกษา ประเมินปัญหาของผู้รับการรักษา และกำหนดปริมาณโบท็อกซ์ที่เหมาะสมกับแต่ละบริเวณที่ต้องการรักษาได้
บริเวณที่ฉีด
Botox อยู่ได้นานแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดด้วย เนื่องจากแต่ละส่วนของร่างกายมีปริมาณมัดกล้ามเนื้อที่แตกต่างกัน ดังนั้น หากฉีดในบริเวณกล้ามเนื้อมัดเล็ก เช่น ใบหน้าหรือกราม ก็อาจจะอยู่ได้นานกว่าการฉีดในบริเวณอื่น ๆ
ปริมาณโบท็อก
ปริมาณโบท็อกก็มีผลเช่นเดียวกัน เพราะหากปริมาณน้อยเกินไป อาจทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน หรือเห็นผลไม่ชัดเจน หากฉีดในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ และเสี่ยงต่ออาการดื้อโบท็อกได้
วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด
แม้ว่าจะเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์และเลือกยี่ห้อโบท็อกที่ดี แต่หากไม่ดูแลตัวเองหลังจากฉีด ก็อาจทำให้โบท็อกสลายได้อย่างรวดเร็ว
วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อก
- ไม่ควรกด นวด หรือถูบริเวณที่ฉีดโบท็อกเพราะอาจทำให้โบท็อกกระจายตัวไปยังกล้ามเนื้ออื่นที่ไม่ต้องการได้
- ไม่ควรนอนราบหรือนอนตะแคงในช่วง 3 – 4 ชั่วโมงแรกหลังฉีด เพื่อป้องกันการกระจายตัวของโบท็อกไปยังบริเวณที่ไม่ต้องการ
- สามารถบริหารกล้ามเนื้อบริเวณได้ เช่น การเคี้ยวหมากฝรั่งประมาณ 30 นาทีหลังฉีดบริเวณกราม โดยจะช่วยให้โบท็อกกระจายตัวได้ดีขึ้น
- ใช้ชีวิตประจำวัน และล้างหน้าได้ตามปกติ แต่ควรทำอย่างทำอย่างเบามือในช่วงแรก
- ไม่ควรออกกำลังกาย 24 ชั่วโมงหลังฉีด
- ไม่ควรสูบบุหรี่ เพราะอาจทำให้โบท็อกสลายได้เร็วกว่าปกติ
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ต้องสัมผัสกับความร้อน เช่น การใช้น้ำอุ่นล้างหน้า ไดร์ผม การอบไอน้ำ ซาวน่าหรือการทำทรีตเมนท์ที่ใช้ความร้อนในช่วง 2 – 4 สัปดาห์หลังฉีด เพื่อป้องกันโบท็อกสลาย
คำถามที่พบบ่อย
1. ฉีดโบท็อกปีละกี่ครั้ง
Botox อยู่ได้นานแค่ไหน โดยทั่วไป การฉีดโบท็อกสามารถทำได้ประมาณ 2 – 3 ครั้งต่อปี ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคลและคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรฉีดบ่อยเกินไปเพื่อป้องกันการดื้อยาและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
2. ฉีดโบท็อกได้ทุกกี่เดือน
โดยปกติ สามารถฉีดโบท็อกซ้ำได้ทุก 3 – 6 เดือน เพื่อให้ Botox คงประสิทธิภาพในการยกกระชับและลดเลือนริ้วรอยอยู่เสมอ ระยะเวลาที่เหมาะสมอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล
3. โบท็อกซ์ฉีดซ้ำได้ไหม
โดยปกติ สามารถฉีดโบท็อกซ้ำได้ทุก 3 – 6 เดือน เพื่อให้ Botox คงประสิทธิภาพในการยกกระชับและลดเลือนริ้วรอยอยู่เสมอ ระยะเวลาที่เหมาะสมอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล
4. ฉีดโบท็อกไม่ควรเกินกี่ยู
ปริมาณโบท็อกที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น พื้นที่ที่ต้องการรักษา ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยทั่วไป ไม่ควรฉีดเกิน 100 ยูต่อครั้ง อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับการประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
5. ฉีดโบท็อกนอนตะแคงได้ไหม
ควรหลีกเลี่ยงการนอนตะแคงในช่วง 3 – 4 ชั่วโมงแรกหลังฉีดโบท็อกซ์ เพื่อป้องกันการกระจายตัวของยาไปยังบริเวณที่ไม่ต้องการ หลังจากนั้นสามารถนอนตะแคงได้ตามปกติ
6. ฉีดโบท็อกไม่ควรทานอะไร
หลังฉีดโบท็อก ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อาหารที่มีรสเผ็ดจัด อาหารหมักดอง และชาบู หมูกระทะ หรือเมนูที่มีไอร้อน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และการสลายตัวของโบท็อก อย่างไรก็ตาม ควรงดในระยะเวลา 2 สัปดาห์หลังฉีด หลังจากนั้นก็สามารถทานได้ตามปกติ
7. ทำไมต้องเคี้ยวหมากฝรั่งหลังฉีดโบท็อก
การเคี้ยวหมากฝรั่งหลังฉีดโบท็อกบริเวณกราม จะช่วยให้ยากระจายตัวได้ดีขึ้น โดยการเคี้ยวหมากฝรั่งจะทำให้โบท็อกสามารถออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
8. ฉีดโบท็อกกี่วันเห็นผล
โดยทั่วไป ผลของการฉีดโบท็อกจะเริ่มเห็นได้ภายใน 3 – 5 วันหลังฉีด และจะเห็นผลชัดเจนที่สุดประมาณ 2 สัปดาห์หลังการฉีด อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
9. โบท็อกสลายเองได้ไหม
โบท็อกสามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 3 – 6 เดือนขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ปริมาณที่ฉีด ตำแหน่งที่ฉีด และสามารถฉีดซ้ำได้ เพื่อผลลัพธ์ที่ต้องการ
10. โบท็อกกับฟิลเลอร์ ต่างกันอย่างไร
โบท็อก (Botox) จะออกฤทธิ์โดยการคลายกล้ามเนื้อ เพื่อลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น ริ้วรอยหางตา หน้าผาก) หรือลดขนาดกล้ามเนื้อ ส่วนฟิลเลอร์ (Filler) จะใช้สำหรับการเติมเต็มร่องลึก หรือเพิ่มปริมาตรในบริเวณที่ขาดหายไป เช่น ร่องแก้ม ขมับ หรือใต้ตา หากต้องการทราบรายละเอียดเชิงลึก สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ Filler ต่างกับ Botox อย่างไร
สรุปบทความ
การฉีดโบท็อก เป็นวิธีการรักษาที่ให้ผลลัพธ์ชั่วคราว โดยทั่วไปอยู่ได้ประมาณ 3 – 8 เดือน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ยี่ห้อของโบท็อกซ์ ความเชี่ยวชาญของแพทย์ ตำแหน่งที่ฉีด และการดูแลตัวเองหลังฉีด Botox ฉีดบ่อยแค่ไหน สามารถฉีดซ้ำสามารถทำได้ทุก 3 – 6 เดือน ทั้งนี้ วิธีดูแลตัวเองหลังจากฉีดโบท็อกมาก็สำคัญที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
Dr.Bank Clinic มีบริการฉีดโบท็อกลดกราม ลดน่อง ลดเหงื่อและลดริ้วรอย หากสนใจติดต่อสอบถาม เพื่อทำนัดเข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่ Line ID : @dr.bankclinic หรือโทร. 02-693-9967, 091-004-2777 หรือ 095-719-3166
