ไขความต่าง! เลเซอร์บราซิลเลี่ยนกับบิกินี่ ต่างกันยังไง? เลือกแบบไหนให้ตรงใจที่สุด

การกำจัดขนในที่ลับกลายเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลตัวเองที่ช่วยเสริมความมั่นใจให้หลายคน แต่เมื่อพูดถึงการทำเลเซอร์ หลายคนมักเกิดความสับสนระหว่างเลเซอร์บราซิลเลี่ยนกับเลเซอร์บิกินี่ ซึ่งแม้จะฟังดูคล้ายกัน แต่มีขอบเขตการกำจัดขนที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน บทความนี้ Dr. Bank Clinic จะพาทุกคนมาไขทุกข้อสงสัยว่า เลเซอร์บราซิลเลี่ยนกับบิกินี่ต่างกันยังไง เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกโปรแกรมที่ตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคุณได้ดีที่สุด

เลเซอร์บราซิลเลี่ยน คืออะไร

เลเซอร์บราซิลเลี่ยน (Brazilian Laser Hair Removal) คือการกำจัดขนบริเวณจุดซ่อนเร้นออกทั้งหมด ตั้งแต่ด้านหน้า ด้านข้าง ไปจนถึงบริเวณก้น เพื่อให้ผิวบริเวณนั้นเรียบเนียนไร้ขน โดยเลเซอร์จะยิงพลังงานแสงเข้าไปทำลายรากขนอย่างล้ำลึก ทำให้ขนขึ้นใหม่ช้าลงและเส้นเล็กลงจนแทบมองไม่เห็น  

เลเซอร์บราซิลเลี่ยน เหมาะกับใคร

• คนที่ต้องการความสะอาดและความมั่นใจขั้นสุดในทุกมุมของร่างกาย
• ผู้ที่ใส่ชุดว่ายน้ำ ชุดบิกินี่หรือชุดรัดรูปบ่อย ๆ
• ผู้ที่มีปัญหาขนคุดหรือการระคายเคืองจากการโกนหรือแว็กซ์
• ผู้ที่ต้องการลดกลิ่นอับชื้นและปัญหาเหงื่อบริเวณจุดซ่อนเร้น

เลเซอร์บิกินี่ คืออะไร

เลเซอร์บิกินี่ (Bikini Laser Hair Removal) คือการเลเซอร์กำจัดขนเฉพาะบริเวณขอบชุดชั้นในหรือบิกินี่เท่านั้น ไม่ได้ล้ำลึกถึงส่วนในทั้งหมด โดยยังคงมีขนธรรมชาติอยู่บางส่วน

เลเซอร์บิกินี่ เหมาะกับใคร

• ผู้ที่ต้องการเก็บขนเฉพาะบริเวณที่มองเห็นเวลาสวมบิกินี่หรือชุดชั้นใน
• ผู้ที่ต้องการความเป็นธรรมชาติ แต่ยังอยากให้ดูเรียบร้อย
• ผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นทำเลเซอร์และยังไม่พร้อมทำแบบบราซิลเลี่ยนเต็มรูปแบบ

เลเซอร์บราซิลเลี่ยนกับบิกินี่ ต่างกันยังไง

แม้ทั้งสองแบบจะเป็นการเลเซอร์กำจัดขนบริเวณจุดซ่อนเร้น แต่มีความแตกต่างที่ชัดเจนทั้งในด้านขอบเขตและผลลัพธ์ที่ได้ ดังนี้

ขั้นตอนเตรียมตัวก่อนเลเซอร์ขน

• งดการถอน แว็กซ์หรือกำจัดขนด้วยวิธีที่ดึงรากขน อย่างน้อย 2 – 4 สัปดาห์ก่อนทำ
• โกนขนบริเวณที่จะทำเลเซอร์มาล่วงหน้า 1 – 2 วัน เพื่อให้เลเซอร์สามารถจับเม็ดสีที่ตอขนใต้ผิวหนังได้ดีที่สุด
• หลีกเลี่ยงการสครับผิว หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิวบริเวณนั้นก่อนทำ
• งดการตากแดดจัด หรืออาบแดด ก่อนทำเลเซอร์อย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์
• ทำความสะอาดร่างกายให้พร้อม และสวมใส่เสื้อผ้าที่สบายตัวในวันที่มาทำ

วิธีการดูแลรักษาหลังทำเลเซอร์

• หลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำร้อน ซาวน่าหรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก 24 – 48 ชั่วโมงหลังเข้ารับบริการ
• งดการสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไป เพื่อลดการเสียดสีบริเวณที่ทำ
• ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่อ่อนโยน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและลดการระคายเคือง
• หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด และทาครีมกันแดดหากบริเวณที่ทำ
• ขนจะค่อย ๆ หลุดร่วงไปเองภายใน 1 – 2 สัปดาห์ ห้ามถอน แว็กซ์หรือสครับผิวแรง ๆ เด็ดขาด เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้

ออกแบบความมั่นใจในแบบของคุณ กับโปรแกรมเลเซอร์ขนที่ Dr. Bank Clinic

ไม่ว่าคุณจะเลือกเลเซอร์บราซิลเลี่ยน หรือเลเซอร์บิกินี่ จุดสำคัญคือการเลือกคลินิกได้มาตรฐานพร้อมทีมแพทย์มากประสบการณ์ เพราะการเลเซอร์บริเวณจุดซ่อนเร้นเป็นพื้นที่ผิวที่บอบบาง จำเป็นต้องอาศัยเทคนิคและความละเอียดสูง โปรแกรมเลเซอร์ขนที่ Dr. Bank Clinic จึงออกแบบการรักษาแบบเฉพาะบุคคลและทำโดยแพทย์ เพื่อให้เหมาะกับเฉดผิวและลักษณะขนของแต่ละคนโดยเฉพาะ 

ที่คลินิกเลือกใช้เครื่องเลเซอร์ YAG ที่ให้พลังงานเสถียรและสม่ำเสมอ พร้อมเครื่องเป่าลมทำความเย็นที่ช่วยลดความร้อนขณะทำหัตถการ ทำให้รู้สึกสบายผิว ไม่แสบ ไม่ระคายเคือง อีกทั้งยังช่วยยับยั้งการเกิดขนใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันทีโดยไม่ต้องพักฟื้น ผิวบริเวณนั้นจะค่อย ๆ ดูเรียบเนียนขึ้น ขนขึ้นใหม่ช้าลงและเส้นเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความมั่นใจในทุกลุค ไม่ว่าจะใส่บิกินี่ ชุดออกกำลังกายหรือชุดรัดรูป ก็มั่นใจได้ในความเรียบเนียนทุกองศา

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

เลเซอร์บราซิลเลี่ยน เจ็บไหม?

ความรู้สึกขณะทำขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล โดยทั่วไปจะรู้สึกอุ่นหรือจี๊ดเล็กน้อยบริเวณรูขุมขน แต่สามารถใช้เจลเย็นหรือยาชาทาก่อนทำเพื่อลดความรู้สึกไม่สบายได้ 

เลเซอร์ขนบิกินี่ เจ็บไหม?

โดยปกติจะรู้สึกเจ็บน้อยกว่าบราซิลเลี่ยน เนื่องจากทำเฉพาะขอบบิกินี่ และระยะเวลาทำสั้นกว่า

ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?

โดยเฉลี่ยจะเริ่มเห็นผลตั้งแต่ครั้งที่ 3 – 4 ขึ้นไป และควรทำต่อเนื่องประมาณ 6 – 8 ครั้ง เพื่อให้รากขนถูกทำลายอย่างสมบูรณ์

สามารถทำได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายไหม?

ได้ ทั้งผู้หญิงและผู้ชายสามารถทำเลเซอร์ขนบริเวณนี้ได้ ปัจจุบันมีบริการที่ออกแบบให้เหมาะกับโครงสร้างผิวและขนของแต่ละเพศโดยเฉพาะ

หลังทำเลเซอร์สามารถออกกำลังกายได้ไหม?

แนะนำให้งดออกกำลังกายหนักภายใน 24 – 48 ชั่วโมงแรก เพื่อหลีกเลี่ยงเหงื่อและการเสียดสีที่อาจทำให้เกิดการระคายเคือง